บัญชีซื้อขายหุ้นประเภทต่างๆ
ในการซื้อขายหุ้นเราจะซื้อขายเองโดยตรงไม่ได้ แต่จะเราจะต้องซื้อขายผ่านนายหน้าหรือบริษัทหลักทรัพย์ฯ ที่อาจเรียกสั้นๆว่า "โบรกเกอร์" โดยที่โบรกเกอร์ในประเทศไทยก็มีอยู่หลายบริษัทฯ ซึ่งจะมีการคิดอัตราค่าคอมมิชชั่นที่ไม่ค่อยแตกต่างกัน โดยเราสามารถเปิดบัญชีกับทางโบรกเกอร์เหล่านี้ได้ โดยจะแบ่งประเภทบัญชีออกเป็น 3 ประเภท อนึ่งการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นอาจเรียกสั้นๆว่า เปิดพอร์ต
1. บัญชีประเภท Cash Account หรือ Cash ATS Account หรือเรียกว่า บัญชีเงินสด
- เป็นบัญชีซื้อขายที่ตัดผ่านบัญชีธนาคารอัตโนมัติ (ATS) ซึ่งไม่ว่าเราจะซื้อหรือจะขายหุ้น เงินจะถูกหักหรือนำเข้าภายในวันทำการวันที่ 3 หลังจากซื้อขาย ซึ่งคือ T+3 (T คือวันที่ทำการซื้อขาย +3 คือบวกอีก 3 วันทำการ) ซึ่งหากไม่มีเงินในบัญชีเพียงพอให้โบรกเกอร์ตัดผ่านบัญชี ท่านอาจจะโดนค่าดอกเบี้ยปรับและอาจถึงบังคับขายหุ้นที่มีอยู่
2. บัญชีประเภท Cash Balance หรือ Cash Balance Account หรือ บัญชีวางเงินล่วงหน้า หรือ บัญชีเงินฝาก
- เป็นบัญชีซื้อขายที่เราจะต้องฝากเงินเข้าไปบัญชีของเราก่อน และเราจะทำการซื้อหุ้นได้ภายในวงเงินที่เราฝากเข้าไป ทั้งนี้โบรกเกอร์บางแห่งจะให้ดอกเบี้ยกับเงินที่เราฝากเข้าไปแต่ยังไม่ได้ทำการซื้อขายหุ้นตามระยะเวลาที่เงินนั้นอยู่ในบัญชี แต่อัตราดอกเบี้ยไม่สูงนัก
- สำหรับ บล็อกของผม จะแนะนำการเปิดบัญชีหุ้นแบบนี้นะครับ เพราะเสมือนเป็นการออม+การลงทุ้นในหุ้น ไม่ว่าได้หรือเสียก็อยู่ภายในวงเงินที่จำกัด ตามที่เราได้ฝากเข้าไป
3. บัญชีประเภท Credit Balance Account หรือ บัญชีกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์
- เป็นบัญชีที่กู้ยืมเงินจากทางโบรกเกอร์เพื่อซื้อขายหุ้น โดยมีอัตราดอกเบี้ยในการกู้ยืมที่ต่างๆกัน ตามแต่ละโบรกเกอร์ หรือเรียกสั้นๆว่า บัญชีมาร์จิ้น
- บัญชีนี้ ผู้จะเปิดบัญชีต้องวางเงินค้ำประกันไว้จำนวนหนึ่งก่อน ส่วนใหญ่จะประมาณ 10-15% ของวงเงินที่ได้รับ ข้อดีในสายตาของผมในการเปิดบัญชีแบบนี้คือ ซอร์ตเซล แต่อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้เปิดแบบนี้ เพราะเสมือนกู้เงินมาเล่นหุ้น มากกว่าการลงทุน
ค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อขายหุ้น
ในการซื้อขายหุ้นจากมีค่านายหน้า (คอมมิชชั่น) จากโบรกเกอร์และ vat โดยในแต่ละประเภทบัญชีก็จะมีค่าคอมมิชชั่นที่แตกต่างกัน ตัวอย่างจากตารางด้านล่างของโบรกเกอร์หนึ่ง
การเลือกโบรกเกอร์สำหรับการเปิดพอร์ต
ในการเลือกโบรกเกอร์สำหรับการเปิดพอร์ตเพื่อซื้อขายหุ้น เราควรคำนึงถึงเรื่องต่างๆดังนี้
1. เป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่น่าเชื่อถือ โดยเราสามารถดูรายชื่อบริษัทหลักทรัพย์ได้ที่
http://www.settrade.com/C00_BeginnerRedirect.jsp?txtPage=beginnerZone/th/beginner-broker-list.html
2. ในการซื้อขายหุ้นครั้งแรก อยากแนะนำให้เปิดกับโบรกเกอร์ที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่่นขั้นต่ำ ส่วนใหญ่จะมีค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำ 50 บาทต่อวัน กล่าวคือถ้าวันนั้นมีคำสั่งซื้อ/ขายที่ match แต่ค่าคอมมิชชั่นรวมทั้งวันไม่ถึง 50 บาท ทางโบรกเกอร์จะคิดที่ 50 บาท + vat 7% รวมเป็นทั้งสิ้น 53.50 บาท (มูลค่่ารวมของการซื้อขายในแต่ละวันที่จะเสียค่าคอมมิชชั่นเกิน 50 บาทคือยอดเงินประมาณ 33,000 บาทขึ้นไป)
- โดยวิธีที่จะดูโบรกเกอร์ที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำต่อวัน ดูได้จากลิ้งค์ในข้อ 1 แล้วกดเครื่องหมาย + ที่หน้ารายชื่อโบรกเกอร์นั้นๆ
** ทั้งนี้ผู้เขียนขอแนะนำ 3 โบรกเกอร์ คือ ทิสโก้ , บัวหลวง , ยูโอบีเคย์เฮียน แต่ถ้าให้เลือกเพียงที่เดียวขอแนะนำ ทิสโก้ ครับ เพราะเครื่องมือต่างๆมีพอควร มีบทวิเคราะห์ให้อ่าน ใช้เวลาเปิดพอร์ตไม่นาน
คำแนะนำดีมากเลยคะ
ตอบลบขอบคุณนะคะ เป็นความรู้ที่ดีมากๆ ค่ะ
ตอบลบมีประโยชน์ และเข้าใจง่ายครับ
ตอบลบบัวหลวงดีไหมค่ะ ใช้เวลาเปิดพอร์ตนานไหมอ่ะ
ตอบลบบัวหลวง โอเคเลยครับ เวลาเปิดพอร์ตแล้วแต่ดวงเลยครับ (จริง ๆ) บางคน 5 วัน บางคน 40 กว่าวัน
ลบเทคนิคคือ หลังจากกรอกสมัครออนไลน์ในเว็บและส่งเอกสารทางไปรษณีย์ไปที่บัวหลวงแล้ว จากนั้นโทรเช็คเข้าไปเป็นระยะ ๆ (โทรจิก) ก็จะได้เร็วขึ้นครับ
สาขาอุดรธานี นานมาก ไปกรอกเอกสารส่งเอกสาร ครบทุกอย่างในวันนั้น วันที่15 กันยายน 2558
ตอบลบจนวันนี้วันที่ 14 ตุลาคม 2558 พรุ่งนี้รบ1เดือน ยังไม่ได้ โทรตามก็ไม่ได้สักที
ช้ามาก ทำงานกันยังไง ตกหล่นๆอยู่นั้นแหละ
ก็จริงที่เราอาจจะไม่ใช่ คนมีฐานะอะไร ไม่ได้มีเงินเป็นล้านๆ ที่จะมาเปิดเล่น จึงจะทำให้คุณรีบร้อนจะทำให้ บริการให้
ไม่อยากจะพูด บริการช้ามาก อย่าเลน อย่าไปใช้บริการอีกเลยถ้าเลือกได้ไปที่อื่นเถอะค่ะ
สาขาอุดรธานี นานมาก ไปกรอกเอกสารส่งเอกสาร ครบทุกอย่างในวันนั้น วันที่15 กันยายน 2558
ตอบลบจนวันนี้วันที่ 14 ตุลาคม 2558 พรุ่งนี้รบ1เดือน ยังไม่ได้ โทรตามก็ไม่ได้สักที
ช้ามาก ทำงานกันยังไง ตกหล่นๆอยู่นั้นแหละ
ก็จริงที่เราอาจจะไม่ใช่ คนมีฐานะอะไร ไม่ได้มีเงินเป็นล้านๆ ที่จะมาเปิดเล่น จึงจะทำให้คุณรีบร้อนจะทำให้ บริการให้
ไม่อยากจะพูด บริการช้ามาก อย่าเลน อย่าไปใช้บริการอีกเลยถ้าเลือกได้ไปที่อื่นเถอะค่ะ
อันนี้ของที่ไหนเหรอครับ บัวหลวง หรือ ทิสโก้ บอกมาลอยๆคนอื่นอาจไม่ทราบกันครับ
ลบอ่อ ผมไม่ได้ทำงานหลักทรัพย์ที่ไหนนะครับ เขียนบล็อกมาแนะนำผู้สนใจลงทุนในหุ้น :)