สำหรับพอร์ตหุ้นมนุษย์เงินเดือนที่ใช้การฝากเงินเข้าพอร์ตทุกเดือนตามกำลังทรัพย์
อาจจะแค่ไม่กี่พันบาทต่อเดือน ทำให้มีข้อจำกัดในการซื้อหุ้นหลาย ๆ
ตัวที่มีราคาต่อหุ้นสูง (ราคาหุ้นสูงไม่ใช่แปลว่าหุ้นแพงนะครับ) เช่น
คุณมีเงินฝากเข้าไปในพอร์ตหุ้นเดือนละ 2,000 บาท
แต่หุ้น X ที่คุณอยากซื้อมีราคาต่อหุ้นที่หุ้นละ 50 บาท ซึ่งในการซื้อขายหุ้นปกติต้องซื้อขั้นต่ำที่
100 หุ้นดังนั้นถ้าคุณจะซื้อหุ้น X คุณก็ต้องมีเงินอย่างน้อย
5,009 บาท (รวมค่าคอมมิชชั่นและภาษี)
ดังนั้นคุณมีทางเลือกในการซื้อหุ้น X ได้อยู่ 2 วิธี คือ
1) ทยอยฝากเงินเรื่อย ๆ ให้จำนวนเงินในพอร์ตเพียงพอต่อการซื้อ 100
หุ้นแล้วค่อยซื้อ
2) ซื้อเป็นเศษหุ้น จากตัวอย่างหุ้น X ราคา 50 บาท คุณมีเงินในพอร์ตจากการเติม 2,000 บาท คุณก็กดคำสั่งซื้อขายไปที่
35 หุ้น ซึ่งคำสั่งนี้จะไม่โชว์ในกระดานซื้อขายปกติ
แต่จะไปโชว์ในกระดานซื้อขายเศษหุ้น ซึ่งบางโบรกเกอร์มีกระดานซื้อขายให้ดูแต่บางโบรกเกอร์ก็ไม่มี
แต่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายเศษหุ้นได้เหมือนกัน ถ้ามีพอร์ตบัวหลวงก็ดูกระดานเศษหุ้นได้เลย
ข้อดีและข้อเสียจากสองวิธี้
ทยอยฝากเงินแล้วซื้อทีละ 100 หุ้น
|
ซื้อเป็นเศษหุ้น
|
|
ข้อดี
|
ซื้อได้ง่ายตามราคาตลาด ณ วันที่ทำการซื้อ
ตั้งคำสั่งซื้อล่วงหน้าก่อนตลาดเปิดได้ |
ซื้อได้ตามจำนวนเงินที่มีอยู่ในพอร์ต
|
ข้อเสีย
|
ราคาหุ้น ณ วันที่ซื้ออาจปรับตัวสูงขึ้นไปมาก
|
ซื้อได้ยากและราคาที่ซื้ออาจแพงกว่าราคาตลาด
ไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อล่วงหน้าก่อนตลาดเปิด |
ภาพตัวอย่างจากการซื้อเศษหุ้นครับ
ซึ่งในภาพเป็นเมลคอนเฟิร์มซื้อขายประจำวันของหลักทรัพย์ทิสโก้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น